2022 The Year of Normalization : Market Outlook & Strategy

2022 The Year of Normalization : Market Outlook & Strategy

 

โดย อ.กิจพณ ไพรไพศาลกิจ

วันที่ 22 ธ.ค. 2021

 

 

          เราพยายามคิดอยู่เหมือนกันว่าจริงๆ แล้วเราอยากจะนิยามตลาด หรือ อยากจะนิยามภาพของตลาดในปีหน้าว่าอย่างไร และจะใช้คำไหนนิยามภาพของปีหน้าได้ดี สุดท้ายเราก็พบว่าคำที่น่าจะตรงที่สุดที่คิดได้ก็คือคำว่า “Normalization” คือการกลับเข้าสู่ปกติของกิจกรรมต่างๆ เราจะเห็นว่า Normalization ที่จะเกิดขึ้นในปีหน้ามีในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของทางด้านการเติบโต มิตินโยบายการเงิน มิติของมูลค่าหรือการการเมินมูลค่าทั้งหมดก็จะมีเรื่องของการกลับสู่ปกติที่จะเกิดขึ้น

 

          นอกจากการที่เราจะเห็น Normalization เกิดขึ้นในมิติต่างๆ อีกในมุมมองนึงที่เห็นคือภาพของด้านกิจกรรมทางด้านการผลิต จะเห็นได้ว่าโหมดของการฟื้นตัวของเศรฐกิจจากเดิมที่เกิด Covid-19 ใหม่ๆ โหมดการฟื้นตัวอยู่ในโหมดของกิจกรรมจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนโหมดของการฟื้นตัวของกิจกรรมมาสู่ลักษณะของการฟื้นตัวที่เป็นภาคบริการมากยิ่งขึ้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก เนื่องจากภาพของทางด้านกิจกรรมเศรษฐกิจช่วงหลังหลังจากที่มีการฟื้นตัวขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารหรือโรงแรมต่างๆ ก็จะทยอยกลับมาเป็นปกติได้ จะเห็นแล้วว่าบนสถานการณ์ของภาพนี้ การฉีดวัคซีน การที่ทุกคนมีภูมิคุ้มกันมากขึ้นในระดับหนึ่ง จะทำให้การเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจมีโอกาสที่จะทำได้มากขึ้น ดังนั้นก็เป็นภาพหนึ่งที่สนับสนุนมุมมองตัวนี้ สำหรับเราซึ่งอยู่ในอาเซียนอาจจะเห็นข่าวร้ายหรือเห็นมุมมองของตลาดหุ้นไทย ก็อาจจะรู้สึกว่าไม่ค่อยดีรึเปล่าแต่ว่าถ้าดูในภาพรวมมองอาเซียนเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ ก็จะเห็นว่าจริงๆ แล้วก็ไม่ได้ดูแย่เพราะว่าอาเซียนจะเป็น Sweet Sport ในปีหน้า หรือพูดง่ายๆ คือ คนอื่นๆ โตไปเยอะแล้ว แต่ว่าอาเซียนเองอาจจะเจอบางอย่างถ่วงไว้พอถึงปีหน้าการเติบโตของอาเซียนที่จะเร่งตัวขึ้นหรือดีขึ้น ก็จะกลายเป็นทำให้อาเซียนดูค่อนข้างที่จะหล่อในภาพของปีหน้า เรามองภาพตรงนี้ในเรื่องของการฟื้นตัว การฟื้นตัวตรงนี้จะนำด้วยกิจกรรมที่เกี่ยวกับทางด้านการบริโภคและในกลุ่มหุ้นที่ Under Owned 

 

          GDP ปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.0% และปีหน้าอยู่ที่ 4.0% ในขณะเดียวกัน Upside ของ GDP ที่มากกว่า 4.0% น่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะว่าถ้ามีควรจะเกี่ยวกับการท่องเที่ยว แต่ว่าในสถานการณ์ปัจจุบันโอกาสที่การท่องเที่ยวจะดีมากหรือเร่งตัวขึ้นปีหน้า หรือถ้าจะเกิดขึ้นอย่างเร็วก็จะเป็นครึ่งหลัง แต่ ณ ตอนนี้แนวโน้มก็คือว่าโอกาสที่ GDP จะต่ำว่า 4.0% น่าจะสูงกว่าการที่ GDP มากกว่า 4.0% 

          SET Index น่าจะเคลื่อนไหว 1,550 – 1,740 ในช่วงจากนี้ถึงประมาณไตรมาส 1 แต่เป้าหมายของ SET Index ปีหน้ามองที่ 1,820  (Based on 18.5x PER – 5 yrs mean) สำหรับดอกเบี้ยน่าจะทรงตัวไปจนถึงสิ้นปีหน้า

 

          ภาพเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ถึงแม้จะมีเรื่องของการล็อคดาวน์แต่ว่าภาพการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเอง ก็มาเห็นการฟื้นตัวของทางด้านภาคการบริการเช่นเดียวกันเริ่มเห็นการส่งสัญญาณดีขึ้น ในขณะที่ภาคอุสาหกรรมก็เห็นภาพของการเติมโตที่เป็นอัตราที่เริ่มชะลอตัวลง

 

 

          การกลับสู่ปกติ หรือ Normalization อีกอย่างหนึ่งที่เราจะเห็นนอกจากการฟื้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ จะเห็นได้อีกว่าในเรื่องของดุลบัญชีเดินสะพัด (current account) จะเห็นภาพว่าน่าจะดีขึ้นเช่นกัน จริงๆ แล้วประเทศไทยเองเกินดุลบัญชีเดินสะพัดมาค่อนข้างที่จะมีความต่อเนื่อง แต่ว่าดุลบัญชีเดินสะพัดติดลบเนื่องจากปกติแล้วดุลบัญชีเดินสะพัดจะประกอบได้ 2 ส่วนคือ ดุลการค้า และ ดุลบริการ ปีที่ผ่านมาดุลการค้าทำใช้ได้ แต่ว่าในฝั่งของดุลบริการเราขาดดุลบริการตัั้งแต่ที่เริ่มปิดประเทศ หลังจากนั้นก็ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดมายาวมาก ในปัจจุบันน่าจะเริ่มเห็นดุลบัญชีเดินสะพัดกลับมาเป็นบวก

 

          การเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาคต่างๆ ประเทศที่พัฒนาแล้วส่วนใหญ่เปิดประเทศไปได้ตั้งแต่ต้นปี 2564  ส่วนประเทศในอาเซียนอาจจะมีวัคซีนไม่พอฉีดได้ช้า ทำให้การเปิดประเทศเกิดขึ้นค่อนข้างช้าในช่วงครึ่งหลังของปีหรือช่วงต้นปีหน้า ดังนั้นประเทศที่พัฒนาแล้วจะมีการเติบโตที่เด่นมากๆ ในปี 2564 แล้วพอปี 2565 การเติบโตจะเริ่มชะลอตัวลง 

 

          หากคุณต้องการเรียนรู้สถานการณ์สดๆ ทันต่อเหตุการณ์ โอกาสพิชิตการลงทุนก็อยู่แค่เอื้อม คอร์สนี้คือคอร์สสำหรับคุณ “Investment & Business Buffet (IB)” 

 

สามารถสมัครออนไลน์ได้แล้ววันนี้ https://csisociety.com/investment-buffet/