ระวังหุ้นเล็กจะตบทรัพย์ ไม่มีอีกแล้ว Easy Money

ระวังหุ้นเล็กจะตบทรัพย์ ไม่มีอีกแล้ว Easy Money

 

โดย อ. ปิง ประกิต สิริวัฒนเกตุ

วันที่ 8 ก.พ. 2022

 

 

          ในหัวข้อ “ระวังหุ้นเล็กจะตบทรัพย์ ไม่มีอีกแล้ว Easy Money” เป็นช่วงที่หมดเวลาแล้ว อย่างไรก็ตาม Easy Money ก็ยังมีเวลาให้เราจากเดือนกุมภาพันธ์จนถึงเดือนเมษายน เพราะตามระยะเวลาการใช้นโยบายการเงินตึงตัวจริงๆ จะเริ่มตั้งแต่มีนาคมไปหนักสุดตั้งแต่ช่วงกลางปีเป็นต้นไป

 

 

          ในสัปดาห์นี้สิ่งที่ต้องรอติดตามจะเป็นเรื่องของตัวเลขเงินเฟ้อ อเมริกาจะมีการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อออกมา ตลาดคาดไว้อยู่ที่ประมาณ 7.6% ส่วนอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ประมาณ 5.9% เป็นการคาดการณ์ตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงที่สุด ตัวเลขเงินเฟ้อของเดือนมกราคมเมื่อเทียบฐานกับเดือนมกราคมของปีที่แล้ว มกราคมของปีที่แล้วหลายๆ อย่างแพงขึ้นมาแล้ว สินทรัพย์เสี่ยงทุกอย่างปรับพุ่งขึ้นมา ซึ่งจริงๆ แล้วพุ่งขึ้นมาตั้งแต่ปลายปี 2020 และต้นปีมกราคาปีที่แล้วก็ถือว่าขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง แต่ปรากฏว่ามกราคมปีนี้มีการคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะโดดจากมกราคมของปีที่แล้วถึง 7% ถ้าตัวเลขเป็นไปตามที่ตลาดคาดไว้ อ. ปิง มองว่าหนีไม่พ้นจริงๆ Fed คงต้องขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง

          ซึ่งตัวเลขเงินเฟ้อมีโอกาสที่จะเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ เพราะว่าดัชนีชี้นำเบื้องต้นออกมาดีมากไปแล้ว คือตัวเลขการจ้างงาน รายงานว่ามีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 467,000 ตำแหน่ง ตลาดคาดไว้ที่ 125,000 ตำแหน่ง Goldman Sachs คาดว่าจะติดลบ 150,000 แต่กลับผลิกขึ้นมาเหนือกว่าตลาดคาด ทำให้ผลิกจากลบกลายมาเป็นบวก แปลว่าภายใต้ข้อมูลบางอย่างที่ Goldman Sachs มีที่เชื่อว่าการจ้างงานไม่น่าจะโดด แต่พอออกมาเป็นแบบนี้แสดงว่ามีความซุกซ่อนของข้อมูลที่ดีกว่าคาดแล้วน่าจะมีที่ซุกซ่อนไว้อยู่ แล้วจะโพล่ออกมาเกี่ยวกับเรื่องของแรงกดดันจากเรื่องของตัวเลขเศรษฐกิจที่สูง และนำไปสู่เรื่องของเงินเฟ้อสูง ตัวเลขการจ้างงานที่ออกมาดีขนาดนี้ทำให้ตัวเลขเงินเฟ้อที่มีการคาดการณ์ไว้ ซึ่งน่าจะยากที่จะต่ำกว่าคาด เตรียมเจอเรื่องของการขึ้นดอกเบี้ยแรงๆ รวมถึงการลดขนาดงบดุลก็จะมาเร็ว 

 

          James B. Bullard เป็นคนแรกๆ ที่มองว่าปีนี้ยังไงก็ต้องขึ้นดอกเบี้ย ตอนแรกที่พูดว่าปีนี้จะขึ้นดอกเบี้ย ทั้งที่ Fed มองว่าจะขึ้นดอกเบี้ยปีหน้า James Bullard บอกว่า เดือนมีนาคมนี้จะขึ้นทีเดียว 50 basis points ไม่น่าว่าจะช่วยอะไรได้ ตลาดตอนนี้รับรู้เรื่องของการขึ้นดอกเบี้ยเยอะแล้ว และทราบว่าในปีนี้จะขึ้นดอกเบี้ยทั้งหมด 5 ครั้ง ซึ่งเป็นแนวทางที่ถูกต้อง เพียงแต่ว่าการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมทีเดียว 50 basis points ไม่ได้ช่วยอะไร และมองว่าแผนการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ชัดเจนแล้วและอยู่ในการคาดการณ์ของตลาดแล้ว อย่างไรก็ตาม James Bullard มองว่ายังต้องมองว่าภาพรวมของเงินเฟ้อทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเลขของเงินเฟ้อ James Bullard เชื่อว่ากลางปีนี้ทุกอย่างน่าจะลงมา แต่ถ้าทุกอย่างไม่ได้เป็นแบบนั้น ถ้าเงินเฟ้อพุ่งต้องมาดูกันอีกทีว่านโยบายต้องมีการปรับเปลี่ยนขนาดไหน นี่คือสิ่งที่ James Bullard พูดซึ่งเราต้องฟังเขาในตอนนี้

 

 

          ปัจจัยที่จะเป็นตัวชี้ที่เราต้องติดตามหลังจากนี้คือเงินเฟ้อของทางฝั่งยุโรป ตอนนี้อยู่ที่ 5.1% การประชุมในเดือนมีนาคม อ.ปิง เชื่อว่าท่าทีของ ECB จะเปลี่ยนไปเมื่อเห็นตัวเลขเงินเฟ้อที่ไม่ยอมลง อาจจะเปิดแผนการขึ้นดอกเบี้ยที่เร็วขึ้นรวมไปถึงการลดขนาดงบดุลที่เร็วขึ้น ต้องระวังจะประมาทไม่ได้ถึงแม้ว่าตอนนี้ คริสติน ลาการ์ด จะออกมาพูดว่าทุกอย่างจะค่อยเป็นค่อยไป แต่ถ้าตัวเลขเงินเฟ้อยังพุ่งอยู่แบบนี้อีกก็น่าจะแย่ ตัวเลขเงินเฟ้อที่ออกมา 5.1% เขามองว่าผลหลักๆ มาจากต้นทุนของพลังงานที่สูงขึ้น ยิ่งเป็นตัวแปรเพราะในเมื่อเงินเฟ้อมาจากพลังงาน และตอนนี้ราคาพลังงานไม่ยอมลงและอาจจะไม่ลง ทาง Goldman Sachs เองก็มีการประเมินราคาน้ำมันปีนี้จากเฉลี่ย 81 เหรียญต่อบาร์เรล กลายเป็น 95 เหรียญต่อบาร์เรล ปีหน้าจาก 90 เหรียญต่อบาร์เรล ปีหน้ากลายเป็น 105 เหรียญต่อบาร์เรล นอกจากนั้น J.P. Morgan และ Bank of America ก็ปรับคาดการณ์น้ำมันปีหน้าเป็น 120 เหรียญ เหตุผลในการปรับส่วยใหญ่มองว่า ความต้องการใช้น้ำมันยังมีอยู่เยอะ กำลังจะกลับขึ้นมาเทียบเท่าตอนก่อนเกิด Covid-19 ในเดียวกันผู้ผลิตตามไม่ทัน เพราะว่าช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีเรื่องของ Covid-19 จึงทำให้บรรดาผู้ผลิตน้ำมันไม่กล่าขุดเจาะเพิ่ม ไม่กล้าลงทุนเพิ่ม เลยทำให้กำลังการผลิตใหม่ไม่มี หรือ มีน้อยมาก 

          หากคุณต้องการเรียนรู้สถานการณ์สดๆ ทันต่อเหตุการณ์ โอกาสพิชิตการลงทุนก็อยู่แค่เอื้อม คอร์สนี้คือคอร์สสำหรับคุณ “Investment & Business Buffet (IB)” 

 

สามารถสมัครออนไลน์ได้แล้ววันนี้ https://csisociety.com/investment-buffet/