ปั้นพอร์ตให้โตด้วย Warrant

ปั้นพอร์ตให้โตด้วย Warrant

โดย อ. เฉลิมพล เนียมศรี

วันที่ 26/04/65

 

 

       วันนี้เรามาในหัวข้อ ปั้นพอร์ตให้โตด้วย Warrant ก่อนอื่นมาเรียนรู้กันก่อนว่า Warrant คืออะไร ยกตัวอย่างหุ้น PPT ถ้าเป็นตระกูล Warrant ทั้งหมดจะมีขีด เช่น JMART-W5 ออกมาเพื่ออะไร เสมือนเป็นการเพิ่มทุน แต่ยังไม่ได้เพิ่มในขณะนี้ เป็นการบริหารของบริษัทนั้นๆ ถามว่านักลงทุนควรจะรู้ถึงขั้นนั้นไหม การรู้ไว้ก็ไม่ได้เสียหายอะไร Warrant ออกโดยบริษัทนั้นๆเป็นผู้ออก แต่แตกต่างจาก DW ซึ่ง DW จะออกโดยโบรกเกอร์ ก็คือบริษัทหลักทรัพย์เป็นผู้ออก แต่ในวันนี้เราจะมาเจาะลึกในเรื่องของ  Warrant การเทรด Warrant ควรดูชาร์ตเปล่าๆไหม มันมีความเสี่ยงและข้อจำกัดบางอย่างอยู่ เรามาดูตัวอย่างของ JMART-W5 ในขณะที่ Warrant เข้าเทรดวันแรก เส้นสีเขียวคือ Warrant ให้นักลงทุนลองสังเกตมันจะมีบางช่วงที่ลงมา แล้วก็ยึกยือๆ แล้วพุ่งขึ้นมา ตรงนี้แหละบางครั้งต้องดูให้ดี ว่าตรงไหนควรซื้อ ตรงไหนควรขาย ราคา ณ ตอนนี้  Warrant แพงเกินไปหรือไม่ เป็น Out-of-the-money รึเปล่า และมันเกินมูลค่าพื้นฐานหรือที่เรียกว่าค่า Intrinsic Value ซึ่งค่า Intrinsic Value มันคือมูลค่าที่แท้จริงของ  Warrant  ณ ตอนนั้น เราสามารถทำให้  Warrant เพิ่มผลตอบแทนเราได้จาก 90 เป็น 140 กว่า 

         

สิ่งที่นักลงทุนควรศึกษา

  • Warrant บางตัวอัตราการใช้สิทธิไม่ได้เป็น 1:1 
  • ราคาใช้สิทธิ์ Warrant แต่ละตัวต่อให้เป็นหุ้นตัวเดียวกันหรือสินทรัพย์อ้างอิงตัวเดียวกัน ราคาใช้สิทธิก็ไม่เหมือนกัน
  • Warrant 1 – 2 เดือนก่อนหมดอายุไม่แนะนำให้เทรด ควรไปตัวอื่นดีกว่า 
  • นักลงทุนรายใหญ่ๆ หลายคนก็ใช้ Warrant ในการลงทุนแต่ทุกคนมีความรู้ และทุกคนใช้เครื่องมือทางด้านการเงินอย่างคุ้มค่าจริงๆ 
  • การใช้ Warrant ในการเทรด ถ้าเกิดเรามองว่ามันเป็นเทรนระยะยาว ถามว่าทำไมไม่ไปใช้ DW เพราะ DW ถือนานไม่ได้  เพราะฉะนั้นตัว DW ไม่ตอบโจทย์ในการถือนาน แต่ Warrant ตอบโจทย์ในการถือนานถ้ายังไม่หมดอายุ หุ้นแม่ขึ้นมันขึ้นด้วยนั่นเอง
  • เครื่องมือที่มีให้ใช้ ไม่ได้ผิดที่เครื่องมือ แต่ผิดที่นักลงทุนไปใช้เครื่องมืออย่างไม่เข้าใจ เครื่องมือมันสามารถเพิ่มผลตอบแทนให้เราได้จริง เช่นเดียวกันมันก็ทำให้เราเสียหายได้อย่างรวดเร็วถ้าเกิดเราใช้แบบผิดวิธี ขึ้นอยู่กับว่าเมื่อใช้มันแล้วต้องควบคุมให้เป็น ใช้อย่างพอเหมาะกับตัวเรา 
  • ถ้าหุ้นตัวไหนที่มีค่า Intrinsic Value เป็นศูนย์ไม่ควรเข้าไปยุ่ง เมื่อเข้าไปแล้วมีโอกาสดอยได้
  • เมื่อไหร่ก็ตามที่หุ้นมัน break ขึ้นให้หาจังหวะเข้า และถ้าเราดูที่ค่า Intrinsic Value เราจะรู้ว่าควรเข้าช่วงไหน
  • ตัวที่เป็น Out-of-the-money ให้นักลงทุนสังเกตดูดีๆ จะเป็นตัวที่ใกล้หมดอายุทั้งนั้นเลย

 

หากคุณสนใจต้องการรับสิทธิ์พิเศษ และรับชมย้อนหลังได้ทุกการบรรยายผ่านช่องทางออนไลน์ กับโครงการคอร์สการลงทุน CSI ซึ่งได้รวบรวมและจัดหลักสูตร CSI-Pack กว่า 400 คอร์สการลงทุน

        **พิเศษ! คอร์ส CSI-Pack สมาชิกรายเดือน เพียง!! 1,990 บาท จากปกติ 5,900 บาท ลงทะเบียนแล้วเริ่มเรียนได้ทันที

        สามารถสมัครออนไลน์ได้แล้ววันนี้ https://csisociety.com/csi-pack/