อ่านมุมมองของผู้บริหารกองทุนหลัก(Master Fund)

“อ่านมุมมองของผู้บริหารกองทุนหลัก(Master Fund)”

 

 

By อาจารย์ ณัฏฐะ มหัทธนา

 

     อาจารย์ ณัฏฐะ มหัทธนา นำเสนอมุมมองดีๆ จากทางตลาดหลักทรัพย์ระดับโลกที่เป็นผู้บริหารกองทุนหลัก หรือ Master Fund ในต่างประเทศ คือ หุ้นยุโรป หุ้นจีน ว่าเขาคิดอย่างไร เราคิดอย่างไร และในฐานะผู้ลงทุนจะวางพอร์ตลงทุนอย่างไรในเรื่องของ Supply Chain Disruption ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นปัจจัยที่จริงจังและส่งผลต่อพื้นฐาน และอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจคัดเลือกตลาดหลักทรัพย์

     ผู้บริหารกองทุนหลัก KT-Ashares Allianz Global Investors ชี้ไปที่ภาวะขาดแคลนพลังงานจีนเป็นหลัก ซึ่งเรื่องนี้ถ่วงการเติบโตของจีนอย่างชัดเจน รัฐบาลท้องถิ่นรับเป้าหมายที่ต้องทำอยู่ 3 อย่าง คือ 1.การควบคุม Covid-19 2.ตั้งเป้า GTP และ 3.KPI ทางด้านสิ่งแวดล้อมต้องลดคาร์บอนไดออกไซด์ ลดการใช้พลังงาน และมีปัจจัยแทรกซ้อนเข้ามาราคาสินค้าโภคภัณฑ์สูงขึ้นในช่วงระยะเวลานี้หลังจาก Covid-19 เป็นต้นมา ในเรื่อง Supply Chain Disruption ภาพรวมเกิดเพราะว่า Supply ฟื้นช้ากว่า Demand

     BlackRock ผู้บริหารกองทุนหลัก KT-CHINA กล่าวว่า Supply Chain Disruption ปัจจุบันมีหลายด้าน 1.การขนส่งเจอคอขวดจาก Covid-19 ประกอบกับโลกพึ่งพาสินค้า Asia เยอะ มีปัญหาฟื้นตัวช้ากว่าตลาดที่พัฒนาแล้ว เรือหรือตู้คอนเทนเนอร์ไม่พอ ซึ่งคาดว่าสถานการณ์คงลากยาวจนกระทั่งกำลังผลิตฟื้นตัวถึงระดับก่อน Covid-19 2.ฐานผลิตสำคัญหยุดชะงัก และ 3.วิกฤตพลังงานในจีนกระทบอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานเยอะ และปัญหายังคงดำเนินต่อไปเพราะฤดูหนาว ทำให้รัฐบาลจีนต้องสงวนพลังงานไว้ใช้ในครัวเรือนก่อน ทางทีม BlackRock มองผลกระทบต่อจีนในภาพรวมแบบนี้คือ 1.ผู้นำเข้าโดนปัญหาต้นทุนและเวลา 2.ผลกระทบสุทธิในเรื่องนี้ความจริงเป็นผลบวกต่อจีนในเรื่อง Supply Chain Disruption เพราะว่าเป็นผู้ส่งออก และ 3.แรงกดดันส่วนใหญ่อยู่ในอุสาหกรรมที่ใช้พลังงานเยอะ วิกฤตพลังงานกระทบการตัดสินใจในจีนมากที่สุด แต่ไม่ได้ขาดแคลนทั้งประเทศ การขาดแคลนอย่างหนักเกิดขึ้นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ผลกระทบโดยรวมอยู่ในระดับที่ยังสามารถบริหารจัดการได้ เพราะว่าถึงจะล่าช้า ถึงจะเผชิญต้นทุนสูง แต่ไม่ทำให้ผู้บริโภคลดลง

     JPMorgan ผู้บริหารกองทุนหลัก KT-EUROTECH กล่าวว่า Supply Chain Disruption ปรับตัวได้เร็วกว่าที่ผู้คนคิด ซึ่งจะเห็นวัฏจักรเช่นนั้นในอุตสาหกรรม Semiconductors เพราะไม่มีใครสามารถคาดเดาความเร็วในการเข้า-ออกตลาดของ Supply ตลอดจนความยืดหยุ่นที่เปลี่ยนไปของ Demand ประเด็นนี้เกี่ยวข้องอย่างมากกับ Tech Hardware มีห่วงโซ่อุปทานที่ซับซ้อน ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเห็นภาพชัดเจนทั้งห่วงโซ่ แต่ที่แน่ๆความต้องการของ Semiconductors ที่พุ่งขึ้น 2-3 เท่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้ใช้กักตุนหรือพยายามเติมสต็อกของตัวเอง ดังนั้นเมื่อ Supply กลับมาและคำสั่งซื้อเหล่านั้นหายไป ตลาดจะพลิกกลับสู่สมดุลอย่างรวดเร็ว หากต้องประเมินจริงๆ JPMorgan คาดว่าสถานการณ์น่าจะดูดีขึ้น ณ จุดใดจุดหนึ่งในปี 2022

หากคุณต้องการเรียนรู้สถานการณ์สดๆ ทันต่อเหตุการณ์ โอกาสพิชิตการลงทุนก็อยู่แค่เอื้อม คอร์สนี้คือคอร์สสำหรับคุณ “Investment & Business Buffet (IB)” 

สามารถสมัครออนไลน์ได้แล้ววันนี้ https://csisociety.com/investment-buffet/