หุ้นไทยหลังประกาศ GDP 3Q21

“หุ้นไทย หลังประกาศ GDP 3Q21” 

 

By อ.เผดิมภพ สงเคราะห์ บล. หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด

 

 

          อาจารย์ เผดิมภพ พูดถึงประเด็นของการประกาศเลข GDP ไตรมาส 3 ประจำปี 2021 ดูว่าทิศทางจะเป็นอย่างไร เนื่องจากค่อนข้างที่จะมีผลต่อการลงทุนอย่างมาก รวมถึงแนวโน้มในอนาคตว่าจะดูดีขึ้นหรือไม่ หลังจากมีการประกาศว่าไตรมาส 4 จะเป็นอย่างไร

 

 

          ตอนนี้ทิศทางของเศรษฐกิจโลก ยังอยู่ในทิศทางที่ดี เริ่มออกมาดูเบาๆ เมื่อดูจากตัวเลขของ Global Manufacturing ปรากฏว่า ตัวเลขรวมเริ่มที่จะทรงตัว ในส่วนของ Input Prices และ Output Prices พบว่ามีตัวเลขเพิ่มขึ้น ซึ่งหมายความว่า เรื่องของการสำรวจของผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อเริ่มปรับลง แต่ตัวเลขเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ตัวเลขในตอนนี้ใกล้เคียงกับปี 2018 และถ้าดูการประมาณตัวเลขเศรษฐกิจของ IMF บ่งบอกว่าเศรษฐกิจไม่ได้ถึงกับแย่ เพียงแต่ว่าดีน้อยลง

 

 

          ทางด้าน เงินเฟ้อ ของทางสหรัฐอเมริกา ณ วันนี้เป็นตัวเลขที่ทุกคนจะต้องยอมรับว่า เงินเฟ้อ เป็นตัวหนึ่งที่อันตรายต่อเศรษฐกิจค่อนข้างมากสำหรับตอนนี้ ของอเมริกาบ่งบอกเหมือนกันทั้งตัวเลขของ PPI ดัชนีราคาผู้ผลิต และ CPI ดัชนีราคาผู้บริโภค ในส่วนของเงินเฟ้อคาดหวัง ใน 10 ปี เคยดรอปลงมาเล็กน้อยเฉียดๆ 2.7 กว่าๆ และใน 5 ปี โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 3 % ซึ่งบอกถึงเงินเฟ้อที่เริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ

 

 

           ประเทศจีนยังคงมีความเสี่ยง Junk Dollar Bonds ผลตอบแทนขึ้น ก็คือราคาลง หรือยังมีบางบริษัทยังขายไม่ค่อยดี แต่ตอนนี้ความเสี่ยงตอนนี้ก็เริ่มน้อยลง ซึ่งต่างจากอเมริกามีโทนที่เป็นลบมากขึ้น ในขณะที่จีนแต่เดิมเป็นลบมากกำลังจะเป็นกลาง เนื่องจากตอนนี้ประชุมพรรคคอมมิวนิสต์เรียบร้อยแล้ว มาตรการที่เคยดึงเศรษฐกิจหลายๆ อย่างก็จะเริ่มชะลอ หรืออาจมีการเพิ่มมาตรการกระตุ้นด้วย โดยเฉพาะกลุ่ม Property หรือแม้แต่ Evergrande ที่จะไม่จ่ายเงิน ตอนนี้ก็เริ่มมีการจ่ายเงินในเรื่องของสัปดาห์ที่แล้ว ทางด้านของเงินเฟ้อ ของจีนต่ำมากในดัชนีราคาผู้บริโภค แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ PPI ดัชนีราคาผู้ผลิต ยังคงสูงอยู่ ในความเสี่ยงนี้ อาจารย์ เผดิมภพ มองว่าก็เริ่มลดลงถ้าเทียบกับอดีตที่ผ่านมา

 

 

          ในต่างประเทศ ณ ตอนนี้ อาจารย์ เผดิมภพ มองว่ามีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น ลด QE เพิ่มดอกเบี้ย เศรษฐกิจอเมริกาโตน้อยลง แต่ไม่ได้หมายความว่าหุ้นไทยจะลง

          GDP ไทย ไตรมาส 3 ปี 2564 ได้ประกาศออกมา พบว่าตัวเลขติดลบ ปีต่อปี -0.3% เทียบกับไตรมาส 2 ที่โต 7.6% แต่ที่คาดการณ์ไว้คือ -1.1% ลบมากก็จริง จาก 7.6% เป็น -0.3% ถ้ามองไตรมาสต่อไตรมาส จาก 0.1% เป็น -1.1% แต่สิ่งที่ดีกว่าคือ ดีกว่าประเทศที่ประกาศก่อนหน้า มาเลเซียติดลบมากกว่าประเทศไทย ญี่ปุ่นก็ติดลบและติดลบมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งต่างจากที่ไทยที่ติดลบ แต่ลบน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้

          ถ้าดู Index ของเศรษฐกิจประจำเดือนตุลาคม ซึ่งเดือนตุลาคม คือการเริ่มต้นของไตรมาส 4 ดูว่าการบริโภค การลงทุน การส่งออกจะเพิ่มขึ้นหรือไม่ สังเกตได้ว่าตัวเลขพวกนี้น่าจะขึ้น สิ่งที่จะบ่งบอกว่าดีหรือไม่ดีก็คือ ดูที่ดัชนีเศรษฐกิจด้านอุปทาน ตัวที่เห็นชัดเจนคือด้านการบริการ ว่าการท่องเที่ยวจะกลับมาไหมจากการเปิดประเทศ ในเดือนพฤศจิกายน SPI ควรจะปรับขึ้น ซึ่งในเศรษฐกิจด้านอุปทาน อาจารย์ เผดิมภพ มองว่าทุกตัวจะปรับขึ้นจากที่เคยวิเคราะห์ไปก่อนหน้านี้

          สิ่งที่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ธนาคารแห่งประเทศไทยแห่งชาติ IMF และ ADB มองเหมือนกันคือ GDP ปีนี้โตน้อย ปีหน้าโตมาก เงินเฟ้อปีนี้และปีหน้าพอๆ กัน ดุลบัญชีเงินสะพัดเกินดุลปีหน้า แต่องค์ประกอบที่มองว่าเด่น คือ การบริโภคสินค้าคงทน ของทางภาคบริการ แต่ตัวที่ต่างกันคือ การลงทุนภาคเอกชน สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ บอกว่าโตน้อยลง แต่ธนาคารแห่งประเทศไทยแห่งชาติ บอกโตมากขึ้น 

 

หากคุณต้องการเรียนรู้สถานการณ์สดๆ ทันต่อเหตุการณ์ โอกาสพิชิตการลงทุนก็อยู่แค่เอื้อม คอร์สนี้คือคอร์สสำหรับคุณ “Investment & Business Buffet (IB)” 

 

สามารถสมัครออนไลน์ได้แล้ววันนี้ https://csisociety.com/investment-buffet/