สภาพตลาดเกิดอะไรขึ้นทั่วโลก ประจำวันที่ 13.06.21
โดย ธีรภัทร เทวาเรืองทรัพย์
Trading Manager – SPC Precious Metal Co.,Ltd
ค่าเงิน
วันนี้เงินบาทปรับตัวไปในทิศทางที่แข็งค่า จากปัจจัยเรื่องเงินทุนไหลเข้ามาในประเทศเป็นหลัก ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐก็ไม่ได้ อ่อนค่าไปจากช่วงเช้ามากนัก อย่างไรก็ดี ตลาดจับตาปัจจัยสำคัญในสัปดาห์หน้า คือ การประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ ธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ในระหว่างวันที่ 15-16 มิ.ย.นี้
“วันนี้บาทแข็งค่า น่าจะมีสาเหตุหลักๆ จากที่มี flow เข้ามาในประเทศ เพราะปัจจัยอื่นก็ยังไม่ได้มีอะไรสำคัญมาก” นักบริหารเงิน ระบุนักบริหารเงิน คาดว่า สัปดาห์หน้าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.00-31.20 บาท/ดอลลาร์
ปัจจัยสำคัญ
➤ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.50 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 109.38 เยน/ดอลลาร์
➤ เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2152/2155 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.2185 ดอลลาร์/ยูโร
ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,636.56 จุด เพิ่มขึ้น 11.29 จุด (+0.69%) มูลค่าการซื้อขาย 106,114 ล้านบาท
สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,194.77 ลบ.(SET+MAI)
➤ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ขยายมาตรการชะลอการชำระหนี้ สำหรับลูกหนี้ SMEs ที่จะครบกำหนดวันที่ 30 มิ.ย. 64 ออกไปจนถึงสิ้นปี 64 สำหรับกลุ่มที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากการระบาดระลอกใหม่ รวมทั้งขยายขอบเขตถึงลูกหนี้ SMEs ที่ได้รับผลกระทบตามนิยามที่สถาบันการเงินใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งจะครอบคลุมได้มากกว่า SMEs ที่มีวงเงินไม่เกิน 100 ล้านบาท
➤ ธปท.ให้สถาบันการเงิน สามารถจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลได้ไม่เกินอัตราจ่ายเงินปันผล (Dividend Payout Ratio) ของแต่ละสถาบันการเงินในปี 63 และไม่เกิน 50% ของกำไรสุทธิครึ่งแรกของปี 64 รวมถึงให้งดซื้อหุ้นคืน และห้ามไถ่ถอน หรือ ซื้อคืนตราสารเงินกองทุนก่อนครบกำหนด
➤ กระทรวงการคลังญี่ปุ่น เปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจบริษัทรายใหญ่ของญี่ปุ่นในไตรมาส 2/64 (เม.ย.-มิ.ย.) ปรับตัวลงติดต่อกัน 2 ไตรมาส อันเนื่องมาจากภาวะขาดแคลนชิปที่เกิดขึ้นทั่วโลก และจากการที่รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สัปดาห์หน้าสหรัฐฯ จะรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนมิ.ย., ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค., ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ค.,คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) แถลงมติอัตรา ดอกเบี้ย, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ เป็นต้น
ตลาดทอง
➤ สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ ( 11 มิ.ย.) ที่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐได้สร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย นอกจากนี้ แรงขายทำกำไรถ่วงราคาทองคำลงด้วย หลังจากที่ราคาปรับตัวขึ้นติดต่อกันหลายวันจากการคาดการณ์เกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐ
บอนด์ยีลด์สหรัฐร่วงต่ำสุด 3 เดือน นักลงทุนเมินตัวเลขเงินเฟ้อพุ่ง
➤ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนเมินตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นของสหรัฐ
➤ ณ เวลา 23.59 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 1.455% หลังจากดิ่งลงแตะระดับ 1.43% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 2.143%
➤ ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน
➤ นักลงทุนมองว่าเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นของสหรัฐเป็นปัจจัยเพียงชั่วคราว และจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า
➤ นักวิเคราะห์ระบุว่าตัวเลขเงินเฟ้อถูกบิดเบือนจากการเปรียบเทียบกับตัวเลขฐานที่ต่ำผิดปกติในปีที่แล้ว ซึ่งขณะนั้นราคาสินค้าได้ทรุดตัวลง โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และจากการประกาศมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด
➤ นอกจากนี้ ตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นในเดือนพ.ค.ยังมีสาเหตุจากราคารถยนต์มือสองและรถบรรทุกที่ทะยานขึ้นมากกว่า 7% ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนการเพิ่มขึ้นราว 1 ใน 3 ของการดีดตัวขึ้นของเงินเฟ้อในเดือนพ.ค. โดยการเพิ่มขึ้นของราคารถยนต์มือสองมักเป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว และเกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
➤ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเฟดจะยังคงรักษาจุดยืนในการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินในการประชุมวันที่ 15-16 มิ.ย. โดยเฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% และยังคงเดินหน้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) วงเงิน 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือน
➤ อย่างไรก็ดี คาดว่าเฟดจะเริ่มหารือกันเกี่ยวกับการปรับลดวงเงิน QE ในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค. และจะเริ่มดำเนินการปรับลด QE ในเดือนธ.ค.หรือต้นปีหน้า ก่อนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปี 2566
➤ การประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮลในปีนี้ จะเป็นการประชุมแบบพบหน้ากัน หลังจากที่เมื่อปีที่แล้ว เฟดต้องจัดการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ครั้งแรกในรอบเกือบ 40 ปี เพื่อลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
➤ ที่ผ่านมา การประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮล ถือเป็นการประชุมที่ได้รับความสนใจอย่างมาก โดยมีผู้ว่าการธนาคารกลาง รัฐมนตรีคลัง นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน จากประเทศต่างๆทั่วโลก เดินทางเข้าร่วมการประชุม ขณะที่ไฮไลท์จะอยู่ที่การกล่าวปาฐกถาของประธานเฟดในขณะนั้นเพื่อแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับนโยบายการเงินของเฟด และแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
➤ ทั้งนี้ นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮลเมื่อปีที่แล้ว โดยได้ประกาศการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินครั้งสำคัญ ซึ่งเฟดจะเปลี่ยนแปลงแนวทางในการกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อ โดยจะเปิดทางให้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้นมากกว่าเดิมเพื่อสนับสนุนตลาดแรงงาน และเศรษฐกิจสหรัฐ
➤ สำหรับในการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮลในปีนี้ คาดว่านายพาวเวลจะส่งสัญญาณการปรับลดวงเงิน QE ท่ามกลางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและตลาดแรงงานสหรัฐ หลังจากที่เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายได้ออกมาส่งสัญญาณให้ตลาดการเงินเตรียมตัวพร้อมรับการถอนมาตรการผ่อนคลายทางการเงินของเฟดก่อนหน้านี้
➤ ที่ผ่านมา ประเทศในตลาดเกิดใหม่และกำลังพัฒนามักได้รับความเสี่ยงสูงสุดจากการที่เฟดใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงิน และหากเฟดมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินด้วยการปรับลด QE และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ก็จะส่งผลให้กระแสเงินทุนไหลกลับไปยังสหรัฐ และกระทบอย่างหนักต่อตลาดเกิดใหม่ดังที่เคยเกิดขึ้นในปี 2541 และ 2556
สรุปจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกของอาทิตย์ที่ผ่านมา
สภาพตลาดทุนเเละตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนเเปลง โดยตัวเลขวันศุกร์ เป็นการตอกยำถึงตัวเลขเงินเฟ้อ CPI ดัชนีที่เอาไว้ดูเงินเฟ้อ ดีดแรงเเตะ 5.1% และอีกไม่นานจะเเตะ 5.75% ซึ่งนั้นหมายความว่าสินทรัพย์ เเละสินค้าโภคภัณฑ์ จะปรับตัวต่อเนื่องเช่นกัน เนื่องด้วยดอกเบี้ยธนาคารบ้านเรายังคงต่ำต่อไป นักลงทุนควรหาเเนวทางการลงทุนที่หวังว่าออกดอกผลที่ดีกว่าฝากธนาคารครับ
ขอบคุณทุกท่านที่บทความของผมครับ ฝากกด Like และ Share ให้ผมด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์ ขอบคุณมากครับ