VDO การสอนคอร์ส เทคนิคการใช้กราฟพิชิตหุ้น ยามยุคเปิดเมือง

9 ธ.ค. 64 VDO การสอนคอร์สเทคนิคการใช้กราฟพิชิตหุ้น ยามยุคเปิดเมือง 

โดย อ.ประกาศิต ทิตาราม

 

 

   

         อ.ประกาศิต ทิตาราม ได้บรรยายเกี่ยวกับเทคนิคเทรดทำกำไรด้วย Wave Tunnel จะเป็นรายละเอียดเกี่ยวกับ Technical เพื่อให้ทุกคนสามารถนำไปใช้ดูจังหวะในการทำกำไรได้เลยเทคนิคนี้จะชื่อว่า Wave Tunnel  เป็น Technical ที่สามารถเอาไปปรับใช้ได้ค่อนข้างหลากหลายรูปแบบในการเทรด และยังช่วยในการจับจังหวะการเทรดได้อีกด้วย ก่อนอื่นเรามาพูดถึง  Price Movement เมื่อดูจากกราฟจะเป็นลักษณะของราคาก่อนจะขึ้น มันจะทำการ sideway หรือพักตัวอยู่ในกรอบแคบๆก่อนเพื่อรอจังหวะหรือรอผลประกอบการประกาศ เวลาที่ราคามันเคลื่อนที่อยู่ในกรอบ sideway ศัพท์ทางเทคนิคจะเรียกว่า Trading range ซึ่งโดยทางทฤษฎีแล้ว Trading range จะมีจำนวนแท่งมากกว่า 20 แท่งขึ้นไปจึงจะถือว่าเป็น Trading range หรือเราอาจจะเรียกว่าเป็น Stage 1 ก็ได้ พอราคาจะเริ่มออกตัวในขาขึ้นจะเข้าสู่ Stage 2 บริเวณ Trading range ถ้าขึ้นมาเสร็จแล้วมันไหลลงมาไม่ไปต่อ จะเกิดการ Error เพราะฉะนั้นในช่วง Break out ขึ้นไปถึง Stage 2 เมื่อพักเสร็จต้องวิ่งต่อถึงจะถือว่าไปต่อได้จริงๆ  คราวนี้เวลาจะวิ่งขึ้นมันอาจจะวิ่งเป็น Strong Trend ก็ได้หรือวิ่งเป็น Week Trend ก็ได้ ถ้าเป็น Strong Trend จะพักอีกทีและขึ้นต่อเลย แต่ถ้าเป็น Week Trend จะวิ่งแล้วจบเลย สิ่งที่เกิดขึ้นก็จะสะท้อนอาการออกมาไม่เหมือนกัน เราอาจจะต้องมาเช็คสถานการณ์นิดนึงว่า Break out ออกจากกรอบเสร็จ ถอยทีนึงเป็น Throwback ตอนวิ่งเป็น Strong Trend หรือ Week Trend ถ้าเป็น Strong Trend ก็วิ่งย่อขึ้นไปเรื่อยๆแต่ถ้าเป็น Week Trend จะเบรคย่อขึ้นแล้วก็ล่วงเลย แต่ต่อให้ราคาวิ่งแรงแค่ไหนสุดท้ายมันก็ต้องอ่อนแรง ก็เหมือนคนเราเมื่อวิ่งเสร็จก็ต้องมีเหนื่อยบ้าง อาการสุดท้ายคืออาการจบเทรนด์ อาการจบเทรนด์คือราคาลงแล้วเด้งไม่ถึงครึ่งของที่ลงมา เลี้ยวหลุด New low ลงมา ถ้าสมมติถอยลงมาแล้วเด้งเกินครึ่งแบบนี้อาจจะ Sideway ออกข้างต่อก็ได้หรือขึ้นย่อและไปต่ออีกก็ได้ 

 

 

 

     

     ในส่วนของตัว  Price Action For Uptrend เราจะรู้ได้อย่างไรว่าราคาเป็นพักเทรนด์หรือเป็นดาวน์เทรนด์หรือสามารถขึ้นต่อได้หรือไม่ หลักการดูง่ายๆ 

  1. ราคา Break new high วิ่งแรงขึ้น 
  2. ราคา New High พร้อม Volume เพิ่มขึ้น
  3. ราคาพักตัวไม่ลึก (Not deep retrace)
  4. ราคาพักตัวไม่ซ้อน (overlap) High เดิม    

    และใน  Price Action For Downtrend  มีวิธีดูง่ายๆคือ

  1. ราคา Break new low ลงแรง
  2. ราคา New low พร้อม Volume เพิ่มขึ้น
  3. ราคาเด้งกลับไม่สูง (not high rebound)
  4. ราคา rebound ไม่ซ้อน (overlap) Low เดิม   

      สุดท้ายนี้มาพูดถึงอาการของ Throwback  เมื่อ Break out แล้วจะมี Throwback ให้เราเห็น ดูจากเส้นสีฟ้าจะเป็นเส้นแนวต้านและแนวรับหรือเป็นแนว High เดิม,  Low เดิม ราคา Throwback อาจจะมีลักษณะแบบนี้คือทะลุก่อน Break แนวต้านแล้วถอยมาและไปต่อ จังหวะที่ขึ้น Throwback ลงมาแค่ 1 ใน 3 หรือครึ่งนึงและไปต่อ ในส่วน Pullback จะมีลักษณะหลุด Low เด้งและลง แบบนี้จะเป็นลักษณะอาการแบบที่ 1 อาการแบบที่ 2 คือไม่ผ่านชนแนวแล้วถอย หรือคุณอาจจะเจอแบบนี้ คือชน ถอยนิดเดียว ข้ามไปแล้วลงมา ถอยนิดเดียว จะเรียกว่าอาการขย่ม 

     หากคุณต้องการเรียนรู้สถานการณ์สดๆ ทันต่อเหตุการณ์ โอกาสพิชิตการลงทุนก็อยู่แค่เอื้อม คอร์สนี้คือคอร์สสำหรับคุณ “Investment & Business Buffet (IB)” 

 

สามารถสมัครออนไลน์ได้แล้ววันนี้ https://csisociety.com/investment-buffet/