หุ้นกัญชงลงทุนยังไง?

สวัสดีครับ วันนี้มาพบกับบทความสายเขียวที่ทำให้ยิ้มได้ นั่นคือกระแสหุ้นกัญชงครับ

กัญชง (Hemp) ถึงแม้จะเป็นพืชตระกูลเดียวกับกัญชา แต่มีสาร Tetrahydrocannabinol (THC) ในปริมาณน้อยกว่า 0.03% ทำให้เราไม่สามารถ get high ได้จากมันเหมือนกัญชาที่มีสาร THC ในปริมาณที่มากกว่าหลายเท่า แต่สิ่งที่กัญชงมีคือสาร CBD ซึ่งมีสรรพคุณทางยาคือช่วยนอนหลับ ลดการเจ็บปวดเรื้อรัง ปรับสมดุลร่างกาย ซึ่งผมขอไม่ขยายความทางการแพทย์เพราะการแพทย์ก็เรื่องหนึ่ง ธุรกิจก็อีกเรื่องหนึ่ง

ในแง่ของธุรกิจสรรพคุณพวกนี้จะต้องถูกนำมาแปะบนฉลากสินค้าต่างๆอย่างแน่นอนเพื่อใช้เป็นจุดขาย ถึงแม้ผู้บริโภคหลายคนจะไม่ได้รู้สึกอะไรเลยหลังจากบริโภคเข้าไปในร่างกาย เพราะสารลักษณะนี้จะผสมในปริมาณเล็กน้อยในแบบของสิ่งเสริม คล้ายพวกน้ำผสมวิตามินที่เรารู้ว่าวิตามินมีประโยชน์ เราดื่มเข้าไปก็ไม่รู้สึกว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงในร่างกายทันที เราแค่รู้สึกว่ามันน่าจะทำอะไรกับร่างกายของเราสักอย่าง แล้วสุขภาพของเราจะค่อยๆดีขึ้น

สินค้าในลักษณะที่เป็นส่วนผสมเพิ่มมูลค่าอย่างกัญชง สามารถนำไปทำสินค้าได้หลากหลายตามแต่นักการตลาดจะคิดได้ เช่น น้ำดื่มกัญชง ครีมกัญชง อาหารผสมกัญชง หรือกระทั่งเทียนกัญชง สินค้าจำพวกนี้มีสิทธิ์เป็นกระแสสั้นๆ หรือเป็นดาวค้างฟ้า ขึ้นอยู่กับการตอบรับของผู้บริโภค

???? มองกัญชงผ่าน รสชาติของชาเขียว และคุณค่าของวิตามินซี

ตั้งแต่คนไทยถูกหนอนชาเขียวสะกดจิต ชินเม๋โจได ในปี 2546 นั่นก็นับเป็นการเปิดศักราชของชาเขียวในไทย ซึ่งผมขอยกให้เป็นตัวอย่างของดาวค้างฟ้ามาเกือบ 20 ปี ชาเขียวนั้นถูกผสมลงไปในอาหารคาวหวาน ทำเป็นน้ำดื่ม ทำเป็นครีม หรือกระทั่งผ้าอนามัย

สิ่งที่ทำให้ชาเขียวยืนระยะได้นานขนาดนี้ นั่นคือ “รสชาติ” ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ไม่ได้สั่งชาเขียวเพราะสรรพคุณ แต่สั่งเพราะรสชาติเฉพาะตัวของมันเอง

ส่วนวิตามินซีนั้นไม่มีรสชาติอะไร แต่มันถูกผสมลงไปในหลากหลายผลิตภัณฑ์เช่นกัน เช่น น้ำดื่ม ครีมบำรุงผิว สมัยก่อนวิตามินซียังไม่ถูกผสมลงไปในผลิตภัณฑ์เท่าไหร่ คนทั่วไปเข้าใจว่ากินกันหวัด จนกระทั่งนักการตลาดขุดสรรพคุณที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคขึ้นมาได้ คุณสมบัติหลัก “ตามที่ผู้บริโภคเข้าใจ” คือทำให้ขาวนั่นเอง ทำให้วิตามินซีก็ถือเป็นส่วนผสมหนึ่งที่ใส่ลงไปในอะไรก็ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน

สำหรับกัญชงนั้นจะเผชิญหน้าอยู่ 2 คำถามสำคัญในแง่ของการตลาดว่ามันตอบโจทย์อะไร เพื่อที่จะไม่เป็นแค่กระแสสั้นๆ

1.รสชาติถูกปากหรือไม่?
2.สรรพคุณตอบโจทย์หรือไม่?

ในมุมมองส่วนตัวของผมเอง เรื่องรสชาติผมไม่ทราบ แต่สรรพคุณของสาร CBD แทบทั้งหมดคือสรรพคุณที่ใช้เป็นยามากกว่าเป็นอาหารเสริม ดังนั้นกัญชงน่าจะยืนระยะได้ในธุรกิจยาและการแพทย์ มากกว่าธุรกิจน้ำดื่ม ครีม อาหาร

ผมมองว่ากระแสกัญชงในน้ำ อาหาร ครีม จะฮิตสักพักแล้วก็เลิกฮิตแต่อาจจะยังไม่หายไป จะต่างจากกัญชา หากประเทศไทยไทยเปิดให้ดูดปุ๊นได้อย่างเสรี กัญชาจะอยู่ได้อย่างยาวนานเนื่องจากมันอยู่มาอย่างยาวนานด้วยตัวของมันอยู่แล้วจากคุณสมบัติเรื่องความมึนเมานั่นเอง

???? สินค้าแฟชั่น

ตอนนี้ผมขอแยกกัญชง กับสาร CBD ออกจากกัน ผมกล้าฟันธงว่าสินค้าผสมกัญชงเป็นสินค้าแฟชั่นที่จะมาแล้วก็จากไป แต่สาร CBD นั้นจะไม่จากไป และถูกใช้ในทางการแพทย์ ดังนั้นหุ้นเครื่องดื่ม อาหาร อาหารเสริม นั้นจะได้รับประโยชน์ในระยะสั้นจากการแห่เข้ามาลองของใหม่เท่านั้น

เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้ง อย่างกระแสน้ำมะพร้าวในปี 2559-2560 ที่หลายบริษัทมองภาพฝันไปไกลว่าน้ำมะพร้าวจะโตระเบิด จะบุกตลาดโลก เป็น New S-Curve ของบริษัท บางสำนักวิจัยการตลาดถึงขนาดให้เป้าว่าปี 2564 น้ำมะพร้าวบรรจุขวดจะมีขนาดตลาดถึง 5000 ล้านบาท (ครึ่งนึงของชาเขียวเลย) สุดท้ายแล้วความจริงอยู่ที่ ราวๆ 1000+ ล้านบาท เท่านั้น ต่างจากที่คาดการณ์ถึง -80%

???? หุ้นกลุ่มไหนน่าสนใจที่สุด

ผมมองว่าเป็นน้ำดื่ม เพราะสั่งผลิตได้ไว เร่งการผลิตได้ง่าย บริโภคง่าย มีช่องทางการขายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ และที่สำคัญที่สุดคือนักลงทุนเองสามารถติดตามแนวโน้มได้ง่ายๆ ผ่านการสังเกตชั้นวางสินค้าในร้านสะดวกซื้อ

นักลงทุนควรมองหุ้นตัวที่มีแบรนด์แข็งแกร่งและมีขนาดธุรกิจไม่ใหญ่จนเกินไป เนื่องจากรายได้ของน้ำกัญชงจะได้มีผลบวกอย่างมีนัยสำคัญต่อพื้นฐานกิจการ

???? มองอนาคตหุ้นกัญชงไทยด้วยอดีตจากต่างประเทศ

โชคดีที่ต่างประเทศ (อเมริกา แคนาดา) นั้นมีอนุญาตใช้สาร CBD อย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้วในปี 2018 และกระแสหุ้นกัญชงกัญชานั้นเคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่งเช่นกัน ทำให้มีหุ้นจำนวนมากที่เป็นตัวอย่างให้เราดูได้ ถึงแม้จะไม่ยาวนานพอจะมองเห็นเทรนด์ใหญ่ แต่ก็สามารถช่วยนักลงทุนที่สนใจจะลงทุนหุ้นกัญชง มองเห็นภาพบริษัทของตนในระยะ 1-3 ปีได้มากขึ้น ซึ่งผมว่าเพียงพอสำหรับการหากำไรจากตีมการลงทุนนี้ครับ

สังเกตที่ปี 2018 เทรนราคาของหุ้นยืนอยู่ในระดับปีไปจนถึง 2019 ก่อนจะเริ่มถล่มลงมาช่วงต้นหรือกลางปี 2019 หากเราคิดว่าหุ้นไทยจะทำพฤติกรรมเลียนแบบต่างประเทศ ยังไม่สายไปหากจะเริ่มสะสมหุ้นกันชงตอนนี้ วิธีลงทุนหุ้นตีมกัญชงที่ผมแนะนำคือ “อย่าเป็นคนสุดท้าย”

ภาพด้านล่างเป็นการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นเกี่ยวกับกัญชงกัญชาในตลาดสหรัฐช่วงปี 2018 ของบริษัทที่มี Story เกี่ยวกับสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชง และสาร CBD

ขอให้มีความสุขกับการลงทุนครับ

ขอบคุณครับ