อัพเดทภาพตลาดสินค้าโภคภัณฑ์และตลาดหุ้นทั่วโลก

อัพเดทภาพตลาดสินค้าโภคภัณฑ์และตลาดหุ้นทั่วโลก

 

โดย คุณปรีด์ ลุประสิทธิ์

วันที่ 25 เม.ย. 65

 

 

          วันนี้ภาพตลาดโดยรวมทั่วโลก สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก ถือว่าถูกกดดันค่อนข้างหนัก เดี๋ยวเราจะมาดูว่ากราฟของแต่ละตลาดว่าแนวโน้มจะเป็นอย่างไรต่อไป 

 

 

          กราฟของ RRG World Equity จะบอกถึงแนวโน้มของตลาดหุ้นทั่วโลกว่าเป็นอย่างไรบ้าง ?

          จากกราฟทางด้านซ้ายล่างจะเห็นได้ว่า ตลาดหุ้นตอนนี้ที่ถือว่า Lagging กว่าเพื่อนจะประกอบไปด้วยของจีน ฮ่องกง เยอรมัน ยุโรป และฝรั่งเศษที่เพิ่งเข้ามาในโซนนี้ จะเห็นได้ว่าจีนมีประมาณ 3 Index ที่ถือว่าอ่อนแอกว่าประเทศอื่นๆ และ NASDAQ ก็ถือว่าค่อนข้างอ่อนแรงกว่าประเทศอื่นๆ เช่นกัน ในส่วนประเทศที่ลงแต่อาจจะลงน้อยกว่าคนอื่น แกร่งกว่าคนอื่นก็จะเป็นเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ส่วน S&P ตอนนี้แกร่งกว่าคนอื่น ส่วน SET Index  ยังคงแกร่งกว่าประเทศอื่นๆ ถ้าเทียบกัน

 

 

          กราฟ Real Yield Weekly (S&P 500) กราฟนี้คือการนำเอา Real Yield 10 ปี ลบกับ Breakeven Inflation เพื่อดูว่าอัตราผลตอบแทนที่แท้จริงของพันธบัตร 10 ของสหรัฐ เมื่อมาเทียบกับตัว S&P 500 พบว่าทุกครั้งที่ Real Yield ปรับตัวขึ้น S&P 500 มีโอกาสพักฐานลงมา ทีนี้รอบล่าสุดรายสัปดาห์จะเห็นได้ว่า Real Yield ของอเมริกาดีดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง และมีการยืนเหนือเส้นสีเหลือง ตอนนี้อยู่ที่ประมาณ -0.08 ซึ่งเกือบจะผลิกกลับมาเป็นบวก จะเห็นได้ว่า S&P 500 มีการปรับฐานอีกเช่นกัน การประชุม Fed ต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าขึ้นดอกเบี้ย อาจจะขึ้นมากว่าคาดด้วยซ้ำ ดั้งนั้นทำให้ตลาดที่ลงมาหนักๆ ทั่วโลกในรอบนี้ก็เป็นกังวลในเรื่องนั้น ทางด้าน NASDAQ ก็เช่นกับ ซึ่งพอ Real Yield ปรับตัวขึ้นก็จะเห็นได้ว่า NASDAQ มีการพักฐานลงมา ดังนั้นการประชุม Fed ตลาดน่าจะผันผวนจนถึงต้นเดือนพฤษภาคมที่จะมีการประชุม Fed ในครั้งถัดไป

          เหตุผลที่ 3 เป็น COT Report เป็นรายงานสถานะนักลงทุนของการลงทุนในตลาดหุ้น ฟิวเจอร์ส ของสหรัฐอเมริกา แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 

  1. กลุ่ม Commercial เป็นกลุ่มที่ใช้ในเชิงพานิชย์ เช่น ธุรกิจเหมืองทอง เป็นต้น จะเห็นได้ว่า 1 ปีย้อนหลังเป็นต้นมา เมื่อใดก็ตามที่กลุ่มคอมเมอร์เชียลมีการช็อตเยอะจะสัมพันธ์กับจุดพีคระยะสั้นของราคาทองคำ 
  2. กลุ่ม Non-commercial ใช้ในการเก็งกำไรอย่างเดียว ไม่ได้ใช้ซื้อ-ขายในเชิงพาณิชย์ กราฟจะสอดคล้อง ซึ่งเมื่อทองคำขึ้น Hedge funds เพิ่ม ถ้าทองคำลง Hedge funds ก็ลดลงมาเช่นกัน 
  3. Non-reportable positions รายย่อยที่ไม่ได้แจ้งการรายงานการซื้อขายต่อ CFTC

 

          Crytocurrency 

          Real Yield Daily (BITCOIN) พบว่ามีการเคลื่อนที่สวนทางกันเล็กน้อย เนื่องจากบิตคอยน์ยังใหม่อยู่ทำให้ความสัมพันธ์กับ Real Yield ยังไม่ค่อยชัดเจนนัก เริ่มเห็นตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมา จะเห็นได้ว่าพอ Real Yield ปรับตัวลงอยู่ในโซนต่ำ บิตคอยน์ปรับตัวดีดขึ้นสูงและเมื่อ Real Yield ปรับตัวขึ้น  บิตคอยน์ก็ลงมา

 

        หากคุณสนใจต้องการรับสิทธิ์พิเศษ และรับชมย้อนหลังได้ทุกการบรรยายผ่านช่องทางออนไลน์ กับโครงการคอร์สการลงทุน CSI ซึ่งได้รวบรวมและจัดหลักสูตร CSI-Pack กว่า 400 คอร์สการลงทุน

        **พิเศษ! คอร์ส CSI-Pack สมาชิกรายเดือน เพียง!! 1,990 บาท จากปกติ 5,900 บาท ลงทะเบียนแล้วเริ่มเรียนได้ทันที

        สามารถสมัครออนไลน์ได้แล้ววันนี้ https://csisociety.com/csi-pack/