สอนคอร์ส AltCoins Discovery ค้นหาเหรียญ AltCoins สุดเทพ

VDO การสอนคอร์ส AltCoins Discovery ค้นหาเหรียญ AltCoins สุดเทพ

โดย อ.นิรันดร์ ประวิทย์ธนา

 

       Decentralized Exchange หรือ DEX ที่เป็นระบบแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ซึ่งก็มีหลายๆตัวที่น่าสนใจ มาพูดถึง Basic การประเมินมูลค่า  Decentralized Exchange รายได้มักจะเกิดกับค่า fee ในการ swap แลกเปลี่ยนสินทรัพย์ค่า fee จะถูกแบ่งเป็น 2 ส่วนอนาคตของ Decentralized Exchange เป็นยังไง? ยกตัวอย่าง Curve ที่คิดค่า fee ถูกมาก คือล้านละ 400 ก็คือ 0.04 ในขณะที่ Sushiswap, Pancake ยังเก็บ fee ค่อนข้างสูงอยู่ที่ประมาณ 0.2 %  ถ้า DEX เหล่านี้อยากจะเติบโต ค่า fee ควรต้องถูกลงหรือไม่? ให้ทุกคนลองคิดในใจทุกวันนี้เราเทรดหุ้นในตลาดหุ้นไทยล้านละประมาณพันกว่าบาทในขณะที่เทรดหุ้นในอเมริกาทุกวันนี้ฟรีด้วยซ้ำเมื่อค่าคอมถูกอย่าง Curve ในท้ายสุดค่าคอมจะลดลงเพื่อจูงใจให้คนเข้ามาเทรดใน Exchange ตัวเองมากขึ้นดังนั้นในอนาคตเราต้องมาดูกันว่า Decentralized Exchange ถ้ารายได้ค่า fee ลดลง Trading Volume จะเพิ่มขึ้นเพื่อชดเชยได้รึป่าวซึ่งถ้าเพิ่มขึ้นชดเชยได้นั่นแปลว่า Exchange เหล่านี้จะเริ่มยั่งยืน        

       มื่อพูดถึง Banking โจทย์คือดอกฝากกับดอกกู้ ส่วนต่างคือรายได้ของแบงก์ ดังนั้น Banking ในโลกของ DeFi เช่น Maker เป็นระบบธนาคารปล่อยกู้บน Ethereum, Aave เป็นระบบธนาคารปล่อยกู้บน Ethereum, Solend เป็นระบบธนาคารปล่อยกู้บน Solana และ Venus เป็นระบบธนาคารปล่อยกู้บน Binance เวลาจะศึกษา Banking เราต้องเข้าใจก่อนว่าโมเดลเขาเป็นยังไงซึ่งแต่ละตัวมีโมเดลไม่เหมือนกัน ยกตัวอย่าง Aave ที่ให้คนมาฝากสินทรัพย์เช่นถ้าเราเอา DAI มาฝากเราจะได้ดอกเบี้ย 2.76% แต่ถ้าเรากู้จะเสียดอก 3.89% ความน่าสนใจคือถ้ากู้เงินแบงก์พาณิชย์ทุกวันนี้เสียดอกบางที 8% บวกลบแต่การกู้เงินในโลก DeFi จะเสียดอกเบี้ยต่ำกว่าจะสังเกตว่าดอกเบี้ยที่กู้มันเป็นดอกเบี้ยที่ถูกกว่า Traditional Finance แต่ดอกตรงนี้เป็นดอกที่มีความผันผวนซึ่งข้อเสียมันเป็น Variable APR คือบางช่วงดอกสูง บางช่วงดอกต่ำคุณต้องรับความผันผวนของดอกเบี้ยได้แต่ถ้าอยากกู้แบบ Stable APR คุณต้องจ่ายดอกแพงขึ้นซึ่ง Stable APR ยังคงมีดอกสูงกว่าธนาคารพาณิชย์อยู่ถ้าในอนาคต Stable APR ลดลงจะเกิดอะไรขึ้น? เมื่อไหร่ก็ตามที่กลุ่ม Banking เหล่านี้ก้าวข้ามไปแข่งกับโลกของ Traditional Finance ได้ Volume ตลาดของกลุ่ม Banking หรือรายได้จะเพิ่มมหาศาลรายได้ของกลุ่ม Banking ก็คือรายจ่ายของดอกเบี้ย

                                                                                                        

 

       มาพูดถึงโมเดลที่น่าสนใจโมเดลหนึ่งคือโมเดลของ Maker ซึ่งต่างจาก Aave และ Compound ยังไง? ก็คือ Maker เป็น Banking เหมือนกันแต่ไม่มีใครมาฝากเงินกับ Maker เพราะจะผลิตเงินมาปล่อยกู้เอง Maker สร้าง Stablecoin ที่มีชื่อว่าเหรียญ DAI และให้คนมากู้เหรียญ DAI ไป พูดง่ายๆว่า Maker ปล่อยกู้อย่างเดียว ไม่มีการให้คนมาฝากนั่นแปลว่ารายได้ไม่ต้องถูกหักเงินฝากดังนั้นเหรียญ DAI จึงเป็นเหรียญที่บ่งบอกถึงแนวโน้มการเติบโตของ Maker ให้เราเข้าใจว่าเหรียญ DAI คือหนี้ที่เกิดจากการเอา Crypto อื่นๆมาค้ำประกันไว้ใน Maker แล้วสร้างเหรียญ DAI ขึ้นมานั่นแปลว่ายิ่งเหรียญ DAI ได้รับความสนใจจากการลงทุนเยอะเท่าไหร่ แปลว่านั่นคือวงเงินปล่อยกู้ของ Maker พูดง่ายๆว่าตอนนี้ Maker ปล่อยกู้อยู่ประมาณ 6 พันล้านเหรียญในส่วนของ Token Terminal จะสังเกตว่าถ้าเกิดรายได้ของ Maker ค่อนข้างโตขึ้นเรื่อยๆแล้วราคาเหรียญ Maker ยังนิ่งๆอยู่แนวโน้ม P/E มันจะลดลงมาอีกจนท้ายที่สุดแล้วเชื่อว่าหลังจากนี้แล้วรายได้ยังเติบโตต่อไป Maker กำลังจะน่าลงทุนแล้วเช่นถ้าอยู่ๆดอกในโลกของ DeFi สูงขึ้น Maker จะได้ผลพลอยได้และรายได้จะพุ่งกระโดนทันทีแต่ถ้าดอกในโลกของ DeFi ยังคงที่แล้วราคา Maker นิ่งๆแต่ Market Cap ของ DAI เพิ่มขึ้นเรื่อยๆนั่นแปลว่า Maker กำลังจะเข้าใกล้จุดที่น่าลงทุนซึ่ง Maker มีเสน่ห์ตรงที่กำไรหรือรายได้ทั้งหมดที่เกิดจาก Maker เขาเอามาซื้อเหรียญไปเบิร์นทิ้งทั้งหมดเป็นการปันผลอีกแบบหนึ่ง ณ ตอนนี้ในความคิดของ อ.นิรันดร์ ประวิทย์ธนา จะยังไม่ซื้อตอนนี้แต่คงดูไปเรื่อยๆว่า Market Cap ของ DAI โตไหมจุดนั้นน่าจะเป็นจุดที่คุณสามารถเข้าลงทุน Maker ได้คุ้มที่สุดหากท่านใดต้องการหาเหรียญ Altcoins สุดเทพกับโครงการคอร์สการลงทุน CSI ซึ่งได้รวบรวมและจัดหลักสูตร Crypto Pack มีการจัดหมวดหมู่เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจอาทิเช่น คอร์สสอนสด, คอร์ส Bitcoin, คอร์ส Altcoins+DeFi เป็นต้น 

สามารถสมัครออนไลน์ได้แล้ววันนี้ : https://csisociety.com/investment-buffet/